โครงการนำหนังสือดีสู่เด็กไทย ปีที่ 8 โดย มูลนิธิเอสซีจี

littlekids ในเครือเลี้ยงลูกง่ายๆ มีเดีย ร่วมกับ โครงการนำหนังสือดีสู่เด็กไทยปีที่แปด มูลนิธิเอสซีจี ชวนเด็กๆ หนุนตักคุณพ่อคุณแม่ให้มั่น แล้วมาร่วมกันเปิดโลกมหัศจรรย์แห่งหนังสือภาพชั้นดีจำนวน 4 เรื่อง แต่ละเล่มจะน่าประทับใจแค่ไหน มาดูรีวิวกันดีกว่า แอบกระซิบว่าพี่ๆ มีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ให้ร่วมสนุกท้ายโพสต์ด้วยนะ

Exif_JPEG_PICTURE

 

12279080_698706740270777_1413044509607123576_n.jpg

คุณตานักเล่านิทาน 

เริ่มด้วยเรื่องแรกกับ คุณตานักเล่านิทาน เล่มนี้เป็นเรื่องของคุณตานักเล่านิทานคามิชิไบ หรือโรงละครกระดาษเคลื่อนที่ ซึ่งยุคหนึ่งเด็กๆ ต่างรอคอยฟังเรื่องสนุกของเขา พร้อมยื่นมือน้อยๆ กำเหรียญมาซื้อลูกอมลูกกวาดจากลิ้นชักหลังจักรยาน วันเวลาผ่านไป คามิชิไบบนท้องถนนค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยจอโทรทัศน์ จนอาชีพนี้เหลือเป็นเพียงความทรงจำ คุณตาผู้คิดถึงวันเก่าๆ จึงตัดสินใจบรรทุกนิทานและขนมขึ้นจักรยาน ปั่นกลับเข้าไปในเมืองอีกครั้ง…

คุณตาอารมณ์ดีคนนี้ ไม่เพียงพาเด็กๆ ย้อนไปมองสังคมญี่ปุ่นในยุคที่ล่วงผ่าน หากยังจูงมือผู้ใหญ่ไปค้นลิ้นชักแห่งความสุขครั้งยังเป็นเด็ก และชวนตั้งคำถามถึง ‘สิ่งสร้างสุข’ แบบเรียบง่าย ไร้เทคโนโลยีที่เราอาจหลงลืมไปแล้ว

เช่นเดียวกับเด็กๆ ในอีกสิบปีข้างหน้า ที่อาจลืมไปว่าครั้งหนึ่งเคยได้ฟังนิทานเรื่องนี้จากตักอุ่นๆ ของคุณพ่อคุณแม่ แต่ไม่มีอะไรน่าเสียดายและเสียใจ เพราะตอนจบ เรื่องนี้บอกกับเราว่า สิ่งที่เหนือกาลเวลา อย่างภาพคุณค่าของชีวิตอันละเมียดละไมและไออุ่นของการใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน จะยังคงเคลื่อนไหวและงอกงามอยู่ในใจดวงน้อยของว่าที่ผู้ใหญ่ทุกคนนั่นเอง

12249702_700233700118081_1510431589080305366_n.jpg

นักเดินทาง

นักเดินทาง เป็นหนังสือภาพที่ไม่มีตัวหนังสือ แต่บอกเล่าเรื่องราวได้ทรงพลังและกินใจเทียบชั้นงานศิลปะขั้นสูง เด็กๆ จะตื่นตาตื่นใจและจดจ่อไปกับรายละเอียดที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน จากหน้าสู่หน้า ประหนึ่งว่าเป็นนักเดินทางในเนื้อเรื่องเสียเอง

การตีความ ผูกโยงเหตุการณ์อิสระอย่างไม่มีผิดถูก ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนรู้คิด เพิ่มพูนทักษะตั้งสมมติฐาน การสังเกตและเชื่อมโยง รวมทั้งการแปรรหัสภาพเป็นคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างกระบวนเรียนรู้ด้วยตนเองในขวบวัยที่สูงขึ้นอีกด้วย

จะเป็นเรื่องน่ายินดีแค่ไหน หากเด็กๆ เปิดหนังสือครั้งแล้วครั้งเล่า เดินทางซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อตามรอยนักเดินทางอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

และจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์เพียงใด หากเด็กๆ วางหนังสือเล่มนี้ลงแล้วบอกกับคุณพ่อคุณแม่ว่า พวกเขาอยากลองออกเดินทางด้วยตนเองดูสักครั้ง

12247864_698410496967068_2084556953331289621_o.jpg

สัตว์ไม่ควรใส่เสื้อผ้าเด็ดขาด

เริ่มเรื่องด้วยคุณเม่นซึ่งหนามแหลมๆ ได้ทิ่มแทงเสื้อผ้าจนขาดวิ่น ตามด้วยหมวกที่อยู่ผิดที่ผิดทางบนหลังอูฐ และเพื่อนสัตว์ตัวอื่นๆ ที่อยู่ในชะตากรรมไม่ต่างกัน! เด็กหลายคนคงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากตั้งแต่สองตัวอย่างแรก พลางคิดว่า แหมะ ก็บอกแล้วว่าสัตว์ไม่ควรใส่เสื้อผ้าเด็ดขาด

การสอนเด็กๆ เรื่องเหตุ และ ผลที่ตามมา โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ควรทำ มักเป็นเรื่องเคร่งเครียด เอาจริงเอาจัง และมีเพียงด้านผิดกับถูก นิทานเล่มนี้จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในแง่วิธีการสื่อสารอันชาญฉลาดที่ทำให้เด็กน้อยซึมซาบวิธีคิดและแก่นเรื่องได้ครบถ้วนโดยไม่รู้ตัว

อารมณ์ขันอันผ่อนคลายที่พบได้ในทุกหน้ายังทำให้การเรียนรู้ตรรกะเป็นเรื่องไม่น่าเบื่อ แถมช่วยให้สัตว์แต่ละตัวดูมีชีวิตชีวา มีนิสัยใจคอและบุคลิกภาพแบบโก๊ะๆ ที่แค่เห็นหน้าปกก็อดอมยิ้มไม่ได้แล้ว

CCI03016.jpg

ห้าพี่น้องกับของเล่นใหม่

บ้านไหนอ่านเล่มนี้ก็ต้องชอบ เพราะผู้ประพันธ์ทำให้การประหยัดอดออมเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว เข้าใจง่าย ทำได้หลายวิธี ผ่านเรื่องราวการบริหารจัดการเงินทองและของเล่น ของพี่น้องจระเข้ทั้งห้าผู้น่ารัก ซึ่งถือเป็นตัวแทนบุคลิกของเด็กๆ ที่มีความแตกต่างกัน บางตัวชอบซื้อ บางตัวชอบเก็บ บางตัวก็ใช้ด้วยเหลือหยอดกระปุกด้วย

ความหลากหลายของตัวแบบในเนื้อเรื่องนี้เองที่จะช่วยถ่ายโอนวิธี “รู้เก็บก็มีใช้ รู้ใช้ก็มีเก็บ” อันเป็นแก่นแท้ที่เรื่องต้องการสื่อสาร จากตัวละครที่เด็กชื่นชอบมาสู่ตัวเด็ก เป็นแบบจำ เป็นคติประจำใจในการใช้จ่ายอดออมต่อไป

และเรื่องราวนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้เลย หากผู้ใหญ่เอาแต่พร่ำบ่น สอนสั่งแต่ไม่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เราจึงจะเห็นว่าพ่อแม่จระเข้ทั้งสองต่างก็มีวินัยและพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างรู้ใช้ รู้เก็บเช่นเดียวกับลูกทั้งห้าด้วย สมกับหนังสือรางวัลดีเด่นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในหนังสือดีปีที่8 จริงๆ ชาว littlekids ขอปรบมือให้ดังๆ เลย

project1-sub2.jpg

สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือภาพดังกล่าว สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ในราคาเล่มละไม่ถึง 100 บาทเท่านั้น หรือร่วมบริจาคเงินเข้า ‘กองทุนนำหนังสือดีสู่เด็กไทย’ พร้อมรับหนังสือภาพชุดกลับไปเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อย ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 586 2547 อีเมล์ ecd.scgfoundation@scg.co.th เว็บไซต์ www.scgfoundation.org หรือ www.facebook.com/SCGFoundation.ECD

และเพื่อบริการความฟินให้กับครอบครัวนักอ่านที่มีความตั้งใจอ่านรีวิวจนจบ เราจึงมีชุดหนังสือตัวอย่างมาแจก (จำนวนจำกัด) กติกาแสนง่ายเพียงกด LIKE & SHARE พร้อมบอกเหตุผลว่าสนใจหรือประทับใจอะไรในหนังสือชุดนี้ แล้วรอรับหนังสือดีถึงประตูบ้าน ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ – 29 กุมภาพันธ์ 2559

มาร่วมสร้าง วัฒนธรรมการเลี้ยงลูกด้วยหนังสือ ด้วยกันนะคะ

One thought on “โครงการนำหนังสือดีสู่เด็กไทย ปีที่ 8 โดย มูลนิธิเอสซีจี

  1. ดูมีสาระมากค่ะ
    ขอบคุณสำหรับรีวิว
    ดิฉันสนใจร่วมสนุกรับตัวอย่างหนังสือด้วยนะคะ

    ขอบคุณค่ะ

    Like

Leave a comment